get in touch

เครื่องมือช่าง
ของแท้ 100%

เครื่องมือช่างมากมาย ราคาคุ้มค่า รับประกันสินค้าของแท้ทุกชิ้น

เรื่องล่าสุด

งานเชื่อม มีกี่ประเภท? เลือกใช้เครื่องเชื่อมแบบไหนให้เหมาะสมกับงาน

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก “งานเชื่อม” กันอยู่แล้ว จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ถึงความหมายของ งามเชื่อม ก่อน

งานเชื่อม (Welding) คือ กระบวนการที่ใช้ความร้อนหรือแรงกด (หรือทั้งสองอย่าง) ในการรวมวัสดุสองชิ้นหรือมากกว่าด้วยการหลอมเหลวและทำให้วัสดุทั้งสองติดกัน ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการเชื่อมส่วนใหญ่คือ โลหะและโลหะผสม

แล้วงานเชื่อม มีกี่ประเภท?

โดยกระบวนการเชื่อมมีหลายประเภท เช่น

  1. การเชื่อมด้วยไฟฟ้า (Arc Welding): ใช้ความร้อนจากการไหลของกระแสไฟฟ้าผ่านลวดเชื่อมและวัสดุเชื่อม เช่น การเชื่อมไฟฟ้ารูปแบบต่างๆ (MMAW, MIG, TIG)
  2. การเชื่อมด้วยแก๊ส (Gas Welding): ใช้เปลวไฟจากแก๊สเชื้อเพลิงเช่น ออกซิเจนและอะเซทิลีนในการเชื่อมวัสดุ
  3. การเชื่อมด้วยเลเซอร์ (Laser Welding): ใช้ลำแสงเลเซอร์ความเข้มสูงเพื่อหลอมวัสดุและเชื่อมต่อชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน
  4. การเชื่อมด้วยการกด (Resistance Welding): ใช้แรงกดและกระแสไฟฟ้าในการทำให้จุดเชื่อมร้อนและหลอมรวมวัสดุ

การเชื่อมมักใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิตรถยนต์, การก่อสร้าง, การซ่อมแซมโลหะ, การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เนื่องจากมันสามารถสร้างการเชื่อมที่แข็งแรงและทนทานได้

แล้วเราจะเลือกใช้ เครื่องเชื่อม แบบไหนให้เหมาะสมกับงาน

ตู้เชื่อม เครื่องเชื่อม

การเลือกใช้เครื่องเชื่อมให้เหมาะสมกับชิ้นงาน

1.เครื่องเชื่อม MMA (Manual Metal Arc Welding)

หรือที่เรียกกันว่า การเชื่อมไฟฟ้ารูปแบบมือ (Stick Welding) เป็นเครื่องเชื่อมที่ใช้หลักการของกระแสไฟฟ้าในการสร้างอาร์กไฟฟ้า (arc) เพื่อหลอมและเชื่อมวัสดุที่ต้องการ โดยมีลวดเชื่อมที่ทำหน้าที่ทั้งเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าและวัสดุที่เติมเพื่อเชื่อมชิ้นงานสองชิ้นเข้าด้วยกัน

หลักการทำงานของเครื่องเชื่อม MMA

  • อาร์กไฟฟ้า: เครื่องเชื่อม MMA จะสร้างอาร์กไฟฟ้าระหว่างลวดเชื่อม (ที่เชื่อมต่อกับขั้วบวก) และชิ้นงาน (ที่เชื่อมต่อกับขั้วลบ) เพื่อให้เกิดความร้อนสูงพอที่ทำให้ลวดเชื่อมหลอมเหลวและเชื่อมติดกับชิ้นงาน
  • ลวดเชื่อม: ลวดเชื่อมจะค่อยๆ ละลายไปเติมเต็มรอยต่อระหว่างชิ้นงานทั้งสองข้าง การละลายของลวดเชื่อมทำให้วัสดุทั้งสองชิ้นติดกันได้
  • ฟลักซ์: ลวดเชื่อม MMA มักมีฟลักซ์เคลือบอยู่ที่ผิว ซึ่งจะช่วยป้องกันการออกซิเดชันและการปนเปื้อนระหว่างการเชื่อม และช่วยลดการเกิดควันหรือการปนเปื้อนที่เกิดจากการเชื่อม

คุณสมบัติของเครื่องเชื่อม MMA

  • พกพาง่าย: เนื่องจากเครื่องเชื่อม MMA มีขนาดค่อนข้างเล็กและสะดวกในการใช้งานในสถานที่ต่างๆ แม้ในพื้นที่จำกัด
  • ใช้งานได้หลากหลาย: สามารถเชื่อมวัสดุโลหะหลายชนิด เช่น เหล็กกล้าทั่วไป สเตนเลส สตีล หรือเหล็กหล่อ ได้ดี
  • เหมาะสำหรับงานในที่ไม่สะดวก: เครื่องเชื่อม MMA มักใช้ในงานซ่อมแซมหรือการเชื่อมในพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้เครื่องเชื่อมอื่นๆ ได้สะดวก
  • ใช้งานง่าย: แม้จะมีข้อจำกัดบางประการในเรื่องของการควบคุมความแม่นยำและการเชื่อมในแนวที่ซับซ้อน แต่เครื่องเชื่อม MMA ก็ยังถือว่าใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพดีในงานทั่วไป

2.เครื่องเชื่อม TIG หรือที่เรียกเต็ม ๆ ว่า Tungsten Inert Gas Welding (หรือ GTAW: Gas Tungsten Arc Welding)

เป็นเครื่องเชื่อมโลหะที่ใช้กระแสไฟฟ้าในการสร้างความร้อน พร้อมทั้งใช้แก๊สเฉื่อย (Inert Gas) เช่น อาร์กอน (Argon) หรือฮีเลียม (Helium) ในการป้องกันแนวเชื่อมจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันกับอากาศ

ลักษณะสำคัญของการเชื่อม TIG

  1. ใช้ลวดทังสเตน (Tungsten Electrode):
    • เป็นอิเล็กโทรดที่ไม่หลอมละลาย มีจุดหลอมเหลวสูง ทำหน้าที่สร้างอาร์ก (Arc) เพื่อให้ความร้อน
  2. แก๊สป้องกัน (Shielding Gas):
    • ใช้ปกคลุมบริเวณเชื่อม เพื่อป้องกันโลหะจากการสัมผัสกับออกซิเจนและไนโตรเจนในอากาศ
  3. ไม่มีการพ่นฟลักซ์ (No Flux):
    • จึงไม่มีสารตกค้างเหมือนการเชื่อมแบบอื่น ทำให้ได้แนวเชื่อมที่สะอาดและเรียบร้อย
  4. ใช้ความร้อนสูง:
    • สำหรับการหลอมละลายโลหะพื้นฐาน และบางครั้งใช้ลวดเติม (Filler Rod) ช่วยในการเชื่อม

ข้อดีของการเชื่อม TIG

  • ให้แนวเชื่อมที่มีคุณภาพสูง และเรียบร้อย
  • เหมาะกับการเชื่อมโลหะบาง และวัสดุที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น สแตนเลส อลูมิเนียม และไทเทเนียม
  • ควบคุมการเชื่อมได้แม่นยำ

ข้อเสีย

  • ใช้เวลานานและต้องการทักษะสูง
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเครื่องเชื่อมแบบอื่น เนื่องจากอุปกรณ์และแก๊สที่ใช้

3.เครื่องเชื่อม MIG หรือที่เรียกเต็ม ๆ ว่า Metal Inert Gas Welding (หรือ GMAW: Gas Metal Arc Welding)

เป็นเครื่องเชื่อมที่ใช้ลวดเติมโลหะเป็นตัวอิเล็กโทรด พร้อมทั้งใช้แก๊สเฉื่อย (Inert Gas) เช่น อาร์กอน (Argon) หรือแก๊สผสมที่มีส่วนผสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ในการป้องกันแนวเชื่อมจากปฏิกิริยากับอากาศ

ลักษณะสำคัญของการเชื่อม MIG

  1. ใช้ลวดเติมโลหะ (Filler Metal Wire):
    • ลวดจะถูกป้อนออกมาอย่างต่อเนื่องผ่านหัวเชื่อม (Torch) ทำหน้าที่เป็นทั้งตัวเติมโลหะและตัวอิเล็กโทรด
  2. แก๊สป้องกัน (Shielding Gas):
    • ใช้ปกคลุมบริเวณเชื่อม เพื่อป้องกันแนวเชื่อมจากออกซิเจนและความชื้นในอากาศ
  3. เหมาะกับงานเชื่อมหลายประเภท:
    • สามารถเชื่อมโลหะได้หลายชนิด เช่น เหล็ก สแตนเลส และอะลูมิเนียม

ข้อดีของการเชื่อม MIG

  • รวดเร็วและสะดวก: ลวดเติมถูกป้อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้งานเร็วกว่าเทคนิคการเชื่อมแบบอื่น
  • ใช้งานง่าย: ไม่ต้องมีทักษะสูงมาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและงานที่ไม่ซับซ้อน
  • ลดการกระเด็นของโลหะ: เนื่องจากการควบคุมอาร์กไฟฟ้าได้ดี
  • รองรับวัสดุหลากหลาย: ใช้กับโลหะหลากหลายประเภทและความหนาต่าง ๆ

ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะสำหรับงานกลางแจ้ง: เพราะลมอาจทำให้แก๊สป้องกันหลุดออกไป ส่งผลต่อคุณภาพการเชื่อม
  • ค่าใช้จ่ายแก๊สป้องกันสูงกว่าการเชื่อมแบบที่ใช้ฟลักซ์
  • ต้องการเครื่องมือเพิ่มเติม เช่น ระบบป้อนลวดและถังแก๊ส

 

 

TALAY TOOLS

จำหน่าย เครื่องมือช่าง และ เครื่องมืออุตสาหกรรม เครื่องมือ DIY อุปกรณ์บ้าน และ สวน ที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความทนทานในราคาที่คุ้มค่า มองหา เครื่องมือช่างของแท้ 100% นึกถึง Talaytools ร้านเครื่องมือช่างใกล้ตัวคุณ

ติดต่อสอบถามได้ที่