สารขัดสี : ทำหน้าที่เป็นมีดที่ใช้ตัดชิ้นงาน

สารยึดเกาะ : ทำหน้าที่เป็นสารยึดเกาะที่ยึดเม็ดสาร ขัดสีเข้าด้วยกัน

รูพรุน : ทำหน้าที่เป็นช่องสำหรับระบายเศษวัสดุ

ข้อควรระวัง

อย่าใช้ความเร็วรอบสูงกว่าอัตราเร่งสูงสุดที่เส้นรอบวง
ผลิตภัณฑ์ในแต่ละล็อตอาจมีสีต่างกันเล็กน้อย
เลือกสารขัดสีให้เหมาะสมกับวัสดุที่ต้องการตัด และใบตัดเหล็กที่เหมาะสมกับความแข็งของวัสดุ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความเร็วรอบ (รอบ/นาที) ของเครื่องมือที่ใช้ไม่เกินอัตราเร่งสูงสุดที่เส้นรอบวง (เมตร/วินาที) ของใบตัดเหล็ก
ตรวจสอบขนาดต่างๆ (เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก × ความหนาใบมีดตัด × เส้นผ่านศูนย์กลางรูติดตั้ง) (มม.) ของใบตัดเหล็ก

ความแข็งของใบตัด (Hardness)

ความแข็งของใบตัด (Hardness) คือ การผสมผสานของเม็ดขัด เรซิ่น และสารเติมเต็ม โดยสามารถอ่านค่าได้จากตัวอักษร ตั้งแต่ A – Z ซึ่งตำแหน่งของตัวอักษรจะสัมพันธ์กับระดับความอ่อน ความเหนียวและความแข็งของใบตัด เช่น A = ความอ่อนแบบพิเศษ หรือ Z = ความแข็งแบบพิเศษ เป็นต้น ดังนั้นการเลือกค่าความแข็งของใบตัด จึงมีผลกับประสิทธิภาพในการตัดชิ้นงานและอายุการใช้งานของใบตัด

ประเภทของใบตัดเหล็ก

สามารถแบ่งประเภทของใบตัดได้ตามวัสดุของเม็ดทรายและคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้ดังนี้

ใบตัดเหล็กวัสดุ A เม็ดทรายมีส่วนผสมของอลูมิเนียมออกไซด์ ใช้สำหรับการตัดวัสดุที่เป็นแผ่นเหล็กบางทั่วไป
ใบตัดเหล็กวัสดุ WA เม็ดทรายมีส่วนผสมของไวท์อลูมิเนียมออกไซด์ ใช้สำหรับตัดและลับคมโลหะที่ไม่ได้ชุบแข็ง
ใบตัดเหล็กวัสดุ AZ เม็ดทรายมีส่วนผสมของเซอร์โคเนียมอลูมิเนียมออกไซด์ ใช้สำหรับตัดสเตสเลส สังกะสี เป็นต้น
ใบตัดเหล็กวัสดุ C เม็ดทรายมีส่วนผสมของซิลิคอนคาร์ไบด์ ใช้สำหรับตัดอโลหะ เช่น ทองแดง ทองเหลือง อลูมิเนียม เป็นต้น
ใบตัดเหล็กวัสดุ GC เม็ดทรายมีส่วนผสมของกรีนซิลิคอนคาร์ไบด์ ใช้สำหรับตัดวัสดุอโลหะที่มีความแข็ง เช่น หินอ่อน หินแกรนิต กระเบื้อง กระจก เป็นต้น